5 สิ่งที่คุณเข้าใจผิดและเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำก่อนวิ่ง?♂️?♀️
ก่อนที่คุณจะเริ่มซ้อม เริ่มวิ่งในสนามแข่ง คุณก็คงมีหลายๆกิจกรรมที่ทำเพื่อเตรียมตัว กับการวิ่งในครั้งนี้ ยืดเหยียด warm up เตรียมเพลง นั่งกินน้ำ สารพัดมากมาย แต่คุณรู้ได้อย่างไร ว่าสิ่งที่คุณทำมันคือสิ่งที่ถูกต้องและให้ผลดีต่อการวิ่งของคุณ? วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเรื่อง 5 สิ่งที่คุณเข้าใจผิดและเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรทำก่อนวิ่ง ลองมาดูกันว่า คุณยังทำสิ่งเหล่านี้ก่อนวิ่งอยู่หรือไม่….มาดูกัน
1.Static Stretching : การยืดเหยียดกล้ามเนื้อแบบคงที่
เราอาจจะได้ความรู้มาว่า การยืดเหยียดก่อนวิ่งนั้นคือเรื่องจำเป็นมาก ก่อนที่เราจะเริ่มออกวิ่ง ไม่เชื่อคุณลองสังเกตคนรอบๆข้างคุณในสนามวิ่งดูซิ เขากำลังยืดเหยียดอยู่ใช่ไหมล่ะ…วันนี้การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการยืดแบบคงที่ไม่ได้ดีที่สุดสำหรับนักวิ่ง แต่การวอร์มอัพแบบไดนามิกจะช่วยเตรียมกล้ามเนื้อของคุณให้มีประสิทธิภาพดียิ่งกว่า
การวอร์มอัพแบบไดนามิก : เป็นการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแบบจำลองการเคลื่อนไหวคล้ายการวิ่งจริง มันเป็นการทำให้ข้อต่อและกล้ามเนื้อได้รับการหล่อลื่นทุกส่วน
2.Eating Too Much : การกินที่มากเกินไป
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ใกล้กับการเริ่มวิ่ง เราทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับความสำคัญของการโหลดคาร์โบไฮเดรตสำหรับนักวิ่ง แต่มันจะไม่ดีเลยที่อาหารมากมายขนาดนั้นอยู่ในท้องขณะวิ่ง
สิ่งที่สำคัญนั้นคือ การกำหนดเวลาโภชนาการของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด กระบวนการย่อยอาหารจะช้าลงในขณะที่เราวิ่งและไม่สามารถทำงานได้ตามปกติเนื่องจากเลือดที่ไหลเวียนไปสู่ระบบทางเดินอาหาร (GI) ของเรา จะถูกเบียงเบียน ให้เลืดที่ไหลเวียนไปหล่อเลี้ยง กล้ามเนื้อ ดังนั้นหากเรากินอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารมื้อใหญ่จะไม่สามารถย่อยได้ตามปกติ
3.การดื่มน้ำที่มากหรือน้อยเกินไป
การดื่มน้ำให้ความชุ่มชื่นต่อร่างกายมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป มันอาจจะทำให้ท้องของคุณรู้สึกแน่นท้อง จนจุก แต่ภาวะการขาดน้ำในร่างกายก็เป็นอันตรายเช่นกัน
รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนวิ่ง รู้ครับว่าวิ่งตอนเช้ามันง่วง…แต่คาเฟอีนจะทำให้อัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น ประสิทธิภาพการวิ่งจะลดลง
แล้วควรดื่มน้ำแค่ไหน? ขึ้นอยู่กับกิจกรรม สภาพอากาศและอัตราเหงื่อของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร การดูสีของปัสสาวะเป็นตัวช่วยในการดูความชุ่มชื่นในร่างกายได้ ถ้าสีเหลืองเข้มเกินไป แสดงถึงภาวะขาดน้ำ ควรดื่มน้ำเพิ่มค่อยสังเกตสีปัสสาวะให้อ่อนลง
4.การใช้ห้องน้ำก่อนการวิ่ง
ถ้าคุณเป็นคนมีพฤติกรรมในการเข้าห้องน้ำดี ผมก็ยินดีด้วย แต่ถ้าไม่ใช่ควรหยุดดื่มของเหลว เช่น น้ำ กาแฟ ก่อนวิ่งหรือก่อนเข้าห้องน้ำครั้งสุดท้าย ประมาณ 30 นาที เพื่อไม่ให้เกิด accident ในระหว่างทางการวิ่ง
5.ไม่ฟังร่างกายของคุณ
“ฮัลโหลร่างกายนายเป็นยังไงบ้าง” การวิ่งอย่างหนักเกินไป ไม่ใช่เรื่องที่ดีเสมอ คุณต้องลองหัดฟังร่างกาย ถ้าคุณวิ่งแล้วร่างกายเกิดอาการเมื่อยล้าหรืออาการบาดเจ็บความหยุดพัก ไม่ควรฝืน ทางที่ดีคุณควรวางแผนการออกกำลังกายของคุณ ให้มีเวลาหยุดพักฟื้นร่างกายบ้าง
ใน 5 ข้อนี้คุณยังมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่หรือไม่… ปรับตัวให้ดีขึ้น แล้ววิ่งอย่างมีความสุขพร้อมร่างกายที่ดีด้วย
ขอบคุณบทความดีๆจาก Runnerworld.com ครับ