Vo2 max จากนาฬิการู้ทันข้อจำกัด
หลักการการวัด vo2 max มาจาก การ plot ความเร็วการวิ่งจาก Gps มาเทียบกับ HR ว่ามีค่า vo2 max ประมาณไหน
ซึ่งมี error ได้สูงเกิน 20 % ได้
การใช้ vo2 max ที่ถูกวิธี ควรใช้การเทียบ ว่าเรามี vo2 max ค่อยๆสูงขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยคุมปัจจัยต่างๆให้คงที่
การวิ่งที่อุณหภูมิต่ำ ทำให้. vo2 max สูงขึ้น เมื่อเทียบกับ อุณหภูมิสูง ที่ความเร็วเดียวกัน
การซ้อม แบบ speed workout ทำให้ vo2 max สูงกว่า การซ้อมแบบ longrun
ดังนั้นการจะเทียบว่าเรามี vo2 max ที่พัฒนาขึ้น ควรจะวิ่งที่ อุณหภูมิเดิมๆ เส้นทางเดิมๆ และ เทียบ เอาตัวเลขเทียบกับการซ้อมแบบเดียวกัน
Vo2 max จะแปรผกผันตามอายุ ยิ่งอายุน้อยค่าจะสูง อายุที่เกิน 25 ปี จะค่อยๆมี vo2 max. ลดลงทุกๆปี ประมาณ 1 ต่อปี
ค่าเฉลี่ย ของคนทั่วไป ที่ไม่ได้ออกกำลังกาย อายุ 30 ปี อยู่ประมาณ 32-38 คนที่เริ่มออกกำลัง เป็นประจำจะเกิน 40 คนที่ออกกำลังได้ดี มีประสิทธิภาพ พร้อมแข่ง เกิน 50 ส่วนคนที่เข้าใกล้ระดับ elte จะเกิน 60
ค่า vo2 max คนที่สูงกว่า ไม่จำเป็นต้องวิ่งระยะไกลได้ดีกว่า เสมอไป เพราะ ปัจจัยที่ทำให้วิ่งระยะไกลได้ดี ขึ้นกับ เศรษฐศาสตร์การวิ่ง running economy ถึง 30 % ดังนั้นคนที่ vo2 maxต่ำกว่า อาจวิ่งได้เร็วกว่า คนที่ vo2 max สูงในระยะไกล
การที่ vo2 max ลดลง หรือไม่ขึ้น ไม่ได้หมายความว่าสุขภาพไม่ดี ต้องไปปรึกษาแพทย์ แต่อาจเกิดจาก ข้อจำกัดการวัดจากที่กล่าวไป หรือเป็นจากการซ้อมที่ยังไม่ตรงจุด
อย่าให้ค่า vo2 max มาทำให้เราท้อในการออกกำลังครับ หรือทำให้เราต้องไปตรวจโรคเพราะค่า Vo2 max ต่ำไป