ใช่ครับ!! เพราะ VO2max เป็นค่าบ่งบอกความสามารถและความฟิตสูงสุดของบุคคลนั้นๆ คนที่มี VO2max สูงจะมีแน้วโน้มวิ่งเร็ว และ ถ้าเกิดเข้าโรงพยาบาลไปผ่าตัด ก็จะมีแนวโน้มฟื้นตัวและแผลติดเชื้อหลังจากการผ่าตัดได้น้อยกว่าคนที่มี VO2max ต่ำ

“ค่า VO2max ในนาฬิกา”

ถ้ายังหาค่า VO2max ในนาฬิกา ให้ถือว่าค่านั้นเป็นค่า VO2max ที่สมมติแบบสมมติสุดๆ เพราะมันเกิดจากการเอา HR-GPS-Speed มาผนวกกัน ถ้าวันไหนลืมเช็ด HR sensor ใต้นาฬิกา หรือ วิ่งในเมืองที่มีตึกเยอะ (OSAKA, BANGKOK, SINGAPORE) GPS มีโอกาสเพี้ยนสูง ทำให้ Speed เพี้ยนหนัก เช่น วิ่งเพซ 4:00 อากาศร้อนทำให้ HR สูง นาฬิกาก็คิดว่าฟิตน้อยลง แต่วิ่งเพซ 4:00 อากาศเย็น ทำให้ HR ต่ำ นาฬิกาก็คิดว่าโครตฟิต VO2max เลยขึ้น  เพราะฉะนั้นแล้วมันคือค่าสมมติที่ไม่ได้เที่ยงตรง มีโอกาศคลาดเคลื่อนถึง 15-20% (ประสบการณ์ตรงจากเทส VO2max จำนวน 1,000++ เคส)

“อยากวิ่งมาราธอน กับ ฮาร์ฟดีๆ VO2max ต้องสูง??”

ดูในรูป : อาจารย์ นิวัฒน์

 

VO2max ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง เห็นไหมว่า VO2max สำคัญแค่ระยะ 5 และ 10 กิโลเมตร พอพ้นระยะนี้ไปแล้ว การซ้อม Endurance (zone 2-3) และ High Aerobic (zone 4) “สำคัญ” มากกว่าการไปใส่ใจ VO2max เพราะถ้ามัวแต่ยึดติดกับ VO2max ในนาฬิกาที่ไม่เที่ยงตรง คุณไม่มีทางจะเป็นนักวิ่งที่ “ชนะใจตัวเองได้”

ถึงแม้ว่าเราสองคน (น้องฮอทกับหมอแอร์) จะตรวจ VO2max กันก็จริง!!! แต่เราจะบอกทุกคนเสมอว่า อย่าไปใส่ใจกับค่านี้มาก เพราะมันมีตัวแปรอื่นที่สำคัญกว่า VO2max เยอะๆๆๆๆๆๆ

วิ่งให้มีความสุข อย่าใช้นาฬิกาเพื่อดูแต่นับก้าวเพราะแค่เกาหัวระยะก้าวก็เพิ่มขึ้น หรือ อย่าใช้นาฬิกาเพื่อดู VO2max ขนาดนั้น เพราะคุณจะไม่มีความสุขกับการวิ่งเมื่อค่ามันต่ำลง

“วิ่งมีอะไรมากกว่า VO2max”

Cr.ฮอท พีรภัทร