ทำไมนักกีฬา Elite ยังชนกำแพง?
เมื่อวานถ้าใครดู Live ของบุรีรัมย์มาราธอน จะเห็นการขับเคี่ยวระหว่าง เซอเก้ ชาวรัสเซีย กับสัญชัย เพื่อแย่งกันเป็นผู้ชนะบุรีรัมย์มาราธอนอย่างสนุก สัญชัยใส่พลังเร่งที่ zone สูงนำเซอร์เก้มาก่อน จนปลาย 5-6 กิโลสุดท้ายชนกำแพง ต้องมีวิ่งสลับเดิน ส่วนเซอเก้พยายามวิ่งอัดขึ้นมาจนใช้ความเร็วแซงสัญชัย และเร่งต่อเนื่องจนชนกำแพงแรงหมดกล้ามเนื้อเริ่มเป็นตะคริว ถ้าต่ออีก 2-3 โลอาจไม่ไหวแน่ กัดฟันวิ่งคว้าชัยชนะไปในที่สุด ห่างกันแค่ 1 นาทีนิดๆ
อะไรคือคำว่าชนกำแพง?
ขออธิบายง่ายๆ ร่างกายมี Zone.ออกกำลัง 3 Zone
(ภาพประกอบ)
1. Aerobic Zone ออกกำลังแบบเบา ไปได้เรื่อยๆ zone 1-3 ร่างกายขับของเสียกรด lactic ออกได้สบาย พลังงานที่ใช้ส่วนใหญ่มาจากไขมันร่างกายเรามีไขมันที่ใช้ได้ 2-3 แสน kcal ดังนั้นนักวิ่งจะวิ่งไปได้เรื่อยๆ ไม่ชนกำแพง
2. Aerobic -Anarobic Transformation เป็นช่วงรอยต่อระหว่าง Aerobic กับ Anaerobic เป็นการออกกำลังกายแบบหนักขึ้น ยิ่งหนักยิ่งใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดตรมากขึ้นใช้ไขมันน้อยลง นักกีฬา Elite ใช้ช่วง Zone นี้ในการแข่งมาราธอนเพราะวิ่งได้ความเร็วแต่ยังสามารถวิ่งได้ต่อเนื่องยาวๆ ร่างกายเริ่มมี lactic สะสมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังพอเคลียร์ได้ทัน
3. Anaerobic zone เป็นจุดที่เรียกว่าเลย Lactate thereshold (AT) ขึ้นไป ร่างกายจะออกกำลังหนักมากขึ้น ประมาณ zone 4 ปลาย พลังงานที่ใช้แทบทั้งหมด มาจากคาร์โบไฮเดตรซึ่งมีสะสมในร่างกายได้ประมาณ 1 ชม. นักกีฬาจะวิ่งที่ LT(AT) ได้ประมาณ 1 ชม. ถ้าเลยจากนี้จะชนกำแพง จากพลังงานจากคาร์โบไฮเดตรหมด ต่อให้เติมเจลก็ไม่พอ เลือดเป็นกรดมากขึ้นจากของเสียคั่ง กล้ามเนื้อจะล้า และเป็นตะคริวในที่สุด จนต้องหยุดวิ่ง
เกมส์เมื่อวาน ทั้งสัญชัย และเซอเก้ ไม่มีใครอยากวิ่งข้าม zone ที่เสี่ยงการชนกำแพงของตัวเอง แต่มันมีความจำเป็นในการขับเคี่ยว เพราะทั้งคู่สูสีกันมาก แต่ละคนพยายามเร่งแซงอีกคนให้ห่าง เพื่อเป็นเชิงจิตวิทยาให้อีกคนไม่อยากวิ่งแซงตาม แต่ความที่ทั้งคู่ใกล้เคียงกันมาก ใจสู้ทั้งคู่ และอากาศที่ร้อน ทำให้ทั้งคู่เข้าไปใน Zone แตะ Lactatethereshold มากเกินไป นานเกินไป จนเกิน limit ของตัวเอง จึงเกิดภาพอย่างที่เห็น ชนกำแพงทั้งคู่ คนนึงต้องเดินสลับวิ่ง อีกคนเริ่มเป็นตะคริว เพราะทั้งคู่รู้ดีว่าต้องใส่เต็มที่ไม่งั้นแชมป์ตกเป็นของอีกคนแน่นอน
ถ้าเกมส์เมื่อวานทั้งคู่ไม่ได้สูสีกันขนาดนี้ เราคงไม่ได้เห็นภาพแบบนี้ในนักกีฬา Elite แน่ๆ ทั้งคู่จะวิ่งตาม Zone ของตัวเอง และเข้าเส้นชัยแบบไม่ทุลักทุเล เขาเรียกว่ามวยถูกคู่ หาดูแบบนี้ได้ยาก เป็นการแข่งที่สนุกมาก
ส่วนนักวิ่งสมัครเล่นง่ายๆ เวลาวิ่งมาราธอนให้วิ่งที่ความเหนื่อย 7-7.5/10 พอ เติมน้ำ เกลือแร่ พลังงานให้เพียงพอ ก็จะไม่ชนกำแพง แต่ถ้าก้าวมาที่ความเหนื่อย 8/10 แล้วแช่นานๆ เมื่อไหร่ รับรองว่า hit the wall ได้ง่ายๆ เลย
Cr.หมอแอร์