วิธีเลือกรองเท้าวิ่งแบบมืออาชีพ
การเลือกรองเท้าวิ่ง ต้องตั้งต้น ที่ความรู้ว่า ไม่มีรองเท้าคู่ไหนดีที่สุดในโลก โดยเฉพาะ สำหรับคนทุกคน แต่เราต้องเลือกว่า รองเท้าไหน ใส่แล้วทำให้เราวิ่งได้ดีที่สุด รองเท้าที่ใส่แล้ววิ่งได้ดี จะประกอบ ไปด้วย สองปัจจัย คือ
1 ใส่แล้วทำให้วิ่งแล้ว เร็วขึ้น เช่น Response ไว Midsole ตอบสนองเท้าได้ไว ประหยัดพลังงานในการวิ่งมากขึ้น ( Running Economy )
2 ใส่วิ่งแล้ว ต้องลด หรือป้องกันความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ทั้งจากการสวมใส่ และจากการลงน้ำหนักขณะวิ่ง
รองเท้า ยิ่ง เบา ยิ่งทำให้คุณประหยัดพลังงานการวิ่งได้มากขึ้น ทุก 100 g ที่เบาขึ้น ประหยัดพลังงานในการวิ่ง 1 % หรือวิ่งเร็วขึ้นประมาณ 1 % แต่จะทำให้การรองรับแรงกระแทกจาก รองเท้า ลดลง นั่นคือ มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการลงน้ำหนัก พัฒนาการของรองเท้าในรองเท้า สายความเร็ว Racing Shoe จะอยู่ที่การพัฒนา น้ำหนักให้เบา แต่ยังรองรับแรงกระแทก Cushion ได้ดี ส่วน รองเท้าสาย เทรล จะเน้น ระบบ Outsole ให้สามารถ รองรับพื้นผิวต่างๆ ในการวิ่งเทรลได้ดี เน้นเรื่องน้ำหนักลดลง หรือสรุปง่ายๆ รองเท้า Road บริษัทต่างๆ พยายามหาวิธี ที่สร้าง Outsole และ Midsole ให้เบา แต่รองรับแรงกระแทกได้ดี ตอบสนองไว ส่วนรองเท้า Trail เน้นการพัฒนา outsole ด้านนอก ให้รองรับทุกผิว แข็งแรง ลุยได้ทุกที่
จะซื้อรองเท้ารู้รึยังเท้าเราเป็นยังไง ? ถ้าไม่รู้อ่านก่อน จะได้เลือกรองเท้าถูก
สิ่งควรรู้ก่อนเลือกรองเท้า
1 ลักษณะ มุมของ ข้อเท้า เวลาวิ่ง ( Alignment)
เราแบ่งมุมของข้อเท้าในการลงน้ำหนักดังนี้
1.1 Neutral ทำมุมปกติ ดังรูปด้านล่าง สามารถใส่รองเท้าแบบ Neutral ได้ หรือคือรองเท้าตามท้องตลาดทั่วไป
1.2 Overpronate เท้าล้ม จะมีมุมข้อเท้าล้มเข้าด้านใน ยิ่งล้มเยอะ ยิ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่ายจากการลงน้ำหนัก เช่น เจ็บข้อเท้า หน้าแข้ง หรือเข่า ควรใช้ รองเท้าในกลุ่ม Stability Shoe หรือ Motion Control shoe ส่วนมาก มักมีอุ้งเท้าแบนร่วมด้วย ทำให้มีปัญหา เจ็บฝ่าเท้าหรือ รองช้ำด้วย อาจใส่ Insole แผ่นรองรองเท้าเสริม
1.3 Suprination มุมข้อเท้าบิดไปก้านอก มักพบในคนที่ อุ้งเท้าสูง สามารถใช้รองเท้าปกติ Neutral ได้ แต่ควรเลือกที่รองรับแรงกระแทกได้ดี และอาจใส่ Insole เสริม
วิธีง่ายๆ ดูจากพื้นรองเท้าวิ่งคู่เก่า ถ้าสึก ด้านใน มากกว่าด้านนอก อาจมีภาวะเท้าล้ม หรือง่าย กว่านั้นและแม่นยำ เพียงไปที่สาขา ของเรา ให้น้อง ถ่าpท่าวื่ง และวิเคราะห์ให้ หรือ ถ่ายภาพช้าจากการวิ่งด้วยตัวเอง แล้วส่งให้ทีมงานดู Click
2 .หน้าเท้ากว้างไหม
วัดความยาวเท้าไม่พอ ต้องวัดความกว้างด้วย เพราะคนเท้ากว้าง ตั้งแต่ 2E ขึ้นไป มีโอกาสเจ็บ จากการใส่รองเท้าหน้าแคบได้ ทำให้วิ่งไม่สนุก
หน้าเท้ามีตั้งแต่ A- 4E
A, B หน้าเท้าแคบ
C หน้าเท้าปกติ
D หน้าเท้าค่อนข้างกว้าง
E ขึ้นไป หน้าเท้ากว้าง มากสุดกว้างถึง 4 E ต้องใส่รองเท้าหน้ากว้าง
(สามารถวัดได้ที่ Avarin สาขาที่จำหน่ายรองเท้าฟรี)
3 วิ่งลงน้ำหนักยังไง
ถ้าวิ่งลงส้น ควรใส่รองเท้าที่ Drop สูง ถ้าวิ่งลงกลางเท้า หรือหน้าเท้า ใส่รองเท้า Drop ต่ำ
Zerodrop เท่ากันเปะ เหมาะกับการวิ่งแบบลงหน้าเท้า
Drop น้อยๆ ไม่เกิน 4 – 8 mm เหมาะกับวิ่งลงกลางเท้า
Drop ต่ำกว่า 4 mm ถึง Zero Drop เหมาะกับวิ่งลงหน้าเท้า
Drop เยอะๆ เกิน 8 mm เหมาะวิ่งลงส้นมากกว่า
อยากรู้ ถ่ายภาพช้าจากการวิ่งด้วยตัวเอง แล้วส่งให้ทีมงานดู
สรุปคราวนี้เข้าไปร้าน บอกเลย
ผมเป็นคนเท้าปกติ / เท้าล้ม / อุ้งเท้าสูง
ผมหน้าเท้า ปกติ /แคบ/กว้าง
ผมวิ่ง ลงส้น/ลงหน้าเท้า
ช่วยแนะนำรองเท้าวิ่ง Road / Trail ให้ผมหน่อย ก่อนที่จะไปเลือก ลาย รุ่น brand ที่ชอบนะครับ
เลือกชมรองเท้ากับ Avarin ได้ ที่ Sidebar ด้านข้าง ทั้ง มือถือ และ Desktop ครับ เราแบ่งละเอียดตั้งแต่
1 Cushion รองรับแรงกระแทกมากแค่ไหน
2 Type ชนิดของรองเท้า แบบไหน – Neutral , Stability , Motion
3 หน้ากว้าง – แคบ , ปกติ , กว้าง เกิน 2 E
4 Drop เกิน 8 mm สูง 6-8 mm ปานกลาง ต่ำกว่า 6 mm drop ต่ำ หรือ Zero Drop
5 ชนิดของรองเท้า
ุ6 ฺBrand รองเท้า
วิธีวัดขนาดรองเท้า
วิธีวัดขนาดเท้าเพื่อหา size รองเท้าด้วยตัวคุณเอง
รองเท้าทุกรุ่น เลือกง่ายที่สุด แบ่งให้ตามการเลือกด้านบน แค่กด Sidebar ด้านข้าง
ผ่อน 0 % 6 เดือน สมาชิกรับส่วนลดทันที 10 %
https://www.avarinshop.com/product-category/running-shoe/
Pingback: วิธีวัดขนาดเท้าเพื่อหา size รองเท้าด้วยตัวคุณเอง - Avarin: Running and Triathlon.