เคล็ดลับของการลงคอร์ต

เคล็ดลับของการลงคอร์ต


เรากำลังวิ่งลงคอร์ต เราเหนื่อย เราต้องได้ความฟิตเพิ่มขึ้นคุ้มกับที่ลงแรง Do and Dont of Interval Training แบบ Jack Daniel และ Avarin Smart Train

การวิ่งลงคอร์ตแบบ Interval เพื่อเพิ่ม Vo2 max ให้เต็มประสิทธิภาพ แนะนำทำตามนี้ครับ

  1. วิ่งให้ตรง Zone Interval ไม่เบาไป หรือหนักไป จะใช้ HR หรือ Pace ก็ได้ วิ่งที่ 95% -100 % Max HR หรือ 98-100% ของ Vo2 max ค้างไว้ 2-5 นาที ดังนั้นเราควรรู้ HR Max ที่แท้จริง หรือรู้ Speed ที่ 98-100% ของ Vo2 max เพื่อจะให้การออกกำลัง แตะ Vo2 max ในทุกๆ set ของการวิ่ง (การตรวจ CPET ช่วงตรงนี้ให้แม่นยำขึ้นได้ และกรองโรคหัวใจไปในตัว)
    การใช้ Feeling RPE อย่างเดียวอาจไม่ตรง เพราะแต่ละคน Thereshold ในการทนความเหนื่อย ความทรมานต่างกัน
  2. การวิ่งเร็วเกิน 100% vo2 max ไม่ใช่ Interval ที่แท้จริง เพิ่มความเมื่อยล้าให้เร็วขึ้น ทำให้เกิด Lactic acid และวิ่งได้ ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่ตรงตามเป้าของ Interval ที่เราต้องการดันแตะ Vo2 max ทุก set ความเร็วจะค่อยๆ ตกลงในทุก set และไม่แตะค้าง Vo2 max ในที่สุด
  3. การวิ่งแต่ละ set สำหรับคนทั่วไป อยู่ที่ 2-5 นาที ไม่อยากให้ดูระยะทางอย่างเดียว นานกว่า 5 นาที ร่างกายจะเริ่มล้า มีกรด Lactic สะสม และมีผลต่อการวิ่ง set ต่อไป ถ้า Interval เกิน 5 นาที แล้วไม่ล้า ก็เป็นไปได้ว่า เราอาจวิ่งต่ำกว่า speed vo2 max คือวิ่งช้าไป เพื่อเลี้ยงให้ร่างกายวิ่งต่อได้นาน ๆ จนเกิน 5 นาที ร่างกายก็ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ส่วนการวิ่งที่ต่ำกว่า 2 นาที ต้องระวังว่า ร่างกายจะไม่แตะจุด vo2 max เพราะสั้นไป อาจใช้การลดจำนวนพักลงเพื่อให้ร่างกายไต่ถึง Vo2 max ทุกครั้ง
    ดังนั้นคนวิ่งไม่เร็วนัก ไม่ควรมีการซ้อม interval 1 km เพราะจะวิ่งเกิน 5 นาที และจะไปไม่ถึง vo2 max
  4. การซ้อม Interval ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การซ้อม Interval ในคนที่มีโรคหัวใจซ่อน มีคราบไขมัน ทำให้เกิดหัวใจขาดเลือด อันตรายถึงชีวิตได้
    คนที่เป็นเบาหวาน ไขมันสูงมากๆ นานๆ ไม่แนะนำ Interval แบบ HIIT อาจทำแค่ Low interval แทน ผมเคยให้ท่านที่มีโรคประจำตัวออกกำลัง ก็สนุกไม่แพ้กัน
  5. คนที่วิ่ง Easy อย่างเดียว แล้ว Vo2 max เริ่มตัน ถ้าใส่ Interval ลงไปให้ตรง จะเพิ่ม Vo2 max ได้เร็วขึ้นมาก
  6. หัวใจไหว แต่บางครั้งกล้ามเนื้อไม่ไหว ยิ่งวิ่งเร็ว ยิ่งมีโอกาสบาดเจ็บ ดังนั้น เตรียมกล้ามเนื้อให้พร้อม strength training, Drill stretching เพื่อลดการบาดเจ็บจากการวิ่งความเร็วที่สูง
  7. รองเท้าวันซ้อม ไม่จำเป็นต้องใช้ Racing shoe ใช้รองเท้าธรรมดาวิ่งได้เลย ลดการบาดเจ็บจากรองเท้า stack height สูง เพิ่มการพัฒนากล้ามเนื้อที่ใช้วิ่งแบบธรรมชาติ
    Racing shoe, Carbon shoe ใช้แข่งจะเหมาะกว่า หรือซ้อมให้ชินขา ใน speed ที่ใช้แข่ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า