หัวใจ หลอดเลือดฝอย และไมโตคอนเดรีย: ปัจจัยสำคัญในการวิ่งมาราธอน
หัวใจ หลอดเลือดฝอย และ Mitochondria: 3 ปัจจัยความสำเร็จในการวิ่งมาราธอน
ลองเทียบมาราธอนครั้งแรกกับตอนที่ทำ Personal Best (PB) ว่าต่างกันขนาดไหน ที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพราะว่า
ประสิทธิภาพการวิ่งมาราธอนที่ดีจากองค์ประกอบ
1หัวใจ (Heart)
หัวใจเป็นศูนย์กลางของระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการส่งเลือดที่มีออกซิเจนและสารอาหารไปยังกล้ามเนื้อในขณะที่วิ่ง การพัฒนาหัวใจให้แข็งแรงสามารถช่วยให้ร่างกายทนทานและมีประสิทธิภาพในการวิ่งมากขึ้น
การบีบตัวของหัวใจ (Stroke Volume)
Stroke Volume คือ ปริมาณเลือดที่หัวใจบีบตัวออกในแต่ละครั้ง การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ เช่น การวิ่งระยะยาว (long-distance running) หรือการฝึกแบบ HIIT (High-Intensity Interval Training) สามารถเพิ่ม Stroke Volume ทำให้หัวใจสามารถบีบเลือดได้มากขึ้นในแต่ละครั้ง ส่งผลให้มีการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปยังกล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
2Mitochondria (ไมโตคอนเดรีย)
ไมโตคอนเดรียเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ ทำหน้าที่ผลิต ATP (Adenosine Triphosphate) ซึ่งเป็นพลังงานที่กล้ามเนื้อใช้ในการทำงาน การฝึกวิ่งอย่างต่อเนื่องช่วยกระตุ้นการสร้างไมโตคอนเดรียใหม่และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไมโตคอนเดรียเดิม ทำให้กล้ามเนื้อมีพลังงานใช้อย่างเพียงพอ
การซ้อม Easy ที่ตรง Zone ทำให้มีการเพิ่มขึ้นของไมโตคอนเดรีย การซ้อม Interval และ Threshold ที่กำลังดีช่วยทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของไมโตคอนเดรียดีมากขึ้น แต่การซ้อมที่หนักเกินไปจน Overtrain ทำให้ไมโตคอนเดรียถูกทำลายได้
3หลอดเลือดฝอย (Capillaries)
หลอดเลือดฝอยเป็นที่แลกเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนระหว่างเลือดและเซลล์กล้ามเนื้อ การเพิ่มจำนวนหลอดเลือดฝอยในกล้ามเนื้อเป็นผลมาจากการฝึกวิ่งเป็นประจำ ทำให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น และสามารถกำจัดของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ การฝึกซ้อมแอโรบิก (Aerobic Training) ช่วยเพิ่มจำนวนหลอดเลือดฝอยได้
สรุป
ประสิทธิภาพการวิ่งที่ดีต้องการการทำงานร่วมกันของหลายองค์ประกอบ หัวใจที่แข็งแรงและมี Stroke Volume ที่สูงช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ไมโตคอนเดรียในเซลล์กล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพช่วยผลิตพลังงานอย่างเพียงพอ และหลอดเลือดฝอยที่หนาแน่นช่วยให้กล้ามเนื้อได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น การฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอและหลากหลายสามารถพัฒนาองค์ประกอบเหล่านี้ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การวิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การซ้อมวิ่งที่ถูกวิธี ทั้งความหนัก ความนาน และความสม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายเราเปลี่ยนไปคนละคน ลองเทียบมาราธอนครั้งแรกของเพื่อนๆ กับครั้งที่ดีที่สุดว่าต่างกันขนาดไหน
ยิ่งเยอะ แสดงว่าเราเดินทางมาได้ถูกทาง
พัฒนา 3 ระบบได้ดีครับ
Avarin Smart Run