Review Coros Vertix นาฬิกาวิ่ง Ultra Trail แบบเจาะลึกทุกฟังก์ชั่น
“ รถถังฝั่ง Coros ” ถ้าให้เปรียบคำว่ารถถังไม่รู้จะพอริป่าว เรียกว่ารถหุ้มเกราะเลยได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นความ ถึก อึด ทน ของเจ้า Coros vertix ที่ทาง Coros คิดค้นทั้งวัสดุ นวัตกรรม ที่พร้อมจะมาท้าชนทุกแบรนด์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ สมบุกสมบัน ฟังก์ชั่นจัดเต็มที่พร้อมจะพาคุณไปลุยได้ทุกที่ Coros Vertix ทำออกมาเพื่อเอาใจสาย เทรลโดยตรงเลยก็ว่าได้ เพราะ Coros Vertix สามารถที่จะดาวส์โหลดแผนที่ เส้นทางการวิ่งเทรล ลงในนาฬิกาได้เลยเลย และวัสดุ กันกระแทกแบบอย่างดีที่จะปกป้องนาฬิกาของคุณไม่ให้มีริ้วรอย และจุดเด่นของเจ้า Coros Vertix คงจะหนีไม่พ้นคือเรื่อง แบตเตอรี่ ที่จะทำให้คุณ วิ่ง Ultra Trail จบได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องถอดนาฬิกามาชาจแบตขนาดวิ่งเลย โหดขนาดนี้ พร้อมชนทุกสำนัก!!
ไม่ใช่ว่าเจ้า Coros Vertix จะทำมาเพื่อเอาใจสายเทรลอย่างเดียวนะ จะบอกให้รู้เลยว่า มันสามารถพาคุณไปได้ถึง ไตรกีฬาเลยทีเดียว เรียกว่าแถบจะครบทุกชนิดกีฬาเลยก็ว่าได้ ครบจบในเรื่องเดียว “ รถถังฝั่ง Coros ” ถ้าให้เปรียบคำว่ารถถังไม่รู้จะพอริป่าว เรียกว่ารถหุ้มเกราะเลยได้ไหม ไม่ว่าจะเป็นความ ถึก อึด ทน ของเจ้า Coros vertix ที่ทาง Coros คิดค้นทั้งวัสดุ นวัตกรรม ที่พร้อมจะมาท้าชนทุกแบรนด์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ สมบุกสมบัน ฟังก์ชั่นจัดเต็มที่พร้อมจะพาคุณไปลุยได้ทุกที่ Coros Vertix ทำออกมาเพื่อเอาใจสาย เทรลโดยตรงเลยก็ว่าได้ เพราะ Coros Vertix สามารถที่จะดาวส์โหลดแผนที่ เส้นทางการวิ่งเทรล ลงในนาฬิกาได้เลยเลย และวัสดุ กันกระแทกแบบอย่างดีที่จะปกป้องนาฬิกาของคุณไม่ให้มีริ้วรอย และจุดเด่นของเจ้า Coros Vertix คงจะหนีไม่พ้นคือเรื่อง แบตเตอรี่ ที่จะทำให้คุณ วิ่ง Ultra Trail จบได้อย่างสบายๆโดยไม่ต้องถอดนาฬิกามาชาจแบตขนาดวิ่งเลย โหดขนาดนี้ พร้อมชนทุกสำนัก!!
เดี๋ยวเรามาดูกันว่าฟังก์ชั่นของเจ้า Coros Vertix จะเป็นยังไงบ้าง
Application Coros ที่ออกแบบมาให้ดูได้ง่ายมากขึ้นและในทุกๆรุ่นของแบรนด์ Coros ต้องเชื่อมต่อผ่าน Application นี้เท่านั้น
โดยแบ่งเป็น 4 หน้าใหญ่ๆ
เริ่มกันที่หน้าแรก
-Today เป็นหน้าแรกที่เราจะไว้ดูกิจกรรมของเราในแต่ละวันว่า เราเดินไปกี่ก้าวแล้วบ้าง เผาผลาญแคลลอรี่ ไปแล้วเท่าไหร่ ติดตามการนอนหลับในแต่ละวัน หรือค่า Vo2Max ของเราก็จะโชว์อยู่ในหน้านี้ด้วย เช่นกัน
-All workouts คือ หน้าที่ไว้เก็บสถิติ หรือกิจกรรมทั้งหมดที่เราบันทึกหลังออกกำลังกายเสร็จ ก็จะมาปรากฏ อยู่ในหน้านี้ซึ่ง ถ้าเราต้องการดูข้อมูลต่างๆ ของเราก็เพียงแค่กดเข้าไป ก็จะเจอข้อมูลที่เราไปวิ่งมา ค่าหัวใจ การก้าว ค่าเฉลี่ยต่างๆ ก็จะขึ้นมาให้เห็นในรูปแบบนี้
-Profile จะแบ่งย่อย เป็น 5 หมวดหลักๆ
1) Workouts Programs เราสามารถสร้างโปรแกรมการฝึกซ้อมของเราเองได้ หรือสามารถไปดาวน์โหลด ตารางการซ้อมที่ www.coros.com ได้เลย เพราะเว็บไซต์จะมีตารางซ้อมของโค้ชมืออาชีพให้เราได้ฝึกซ้อมกัน
2) Training Plans การสร้างตารางการซ้อมแบบเต็มเดือน ก็สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.coros.com เช่นกัน หรือถ้าใครมีตารางหลายเดือน ก็สามารถกรอกเองได้เลย
3) Navigation Routes Library เอาไว้ดาวน์โหลดแผนที่สนามวิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามเทรล หรือสนามวิ่งถนน ที่มีรูปแบบ ไฟล์ GPX ให้นักวิ่งได้ดาวน์โหลด ก็สามารถนำแผนที่เข้าไปในนาฬิกาได้ทันที
4) Muscle Heatmap โหมดสุดเจ๋งที่ Coros ทำออกมา เป็นโหมดที่เอาใจสาย ฟิตเนส โดยตรงที่มันจะคอยบอกว่า เวลาที่เราเข้า GYM เราจะเล่นกล้ามเนื้อส่วนไหน บ้างในร่างกาย เล่นไปกี่เซ็ท มันจะเก็บข้อมูลสถิติไว้ให้เราได้ดู และยังแบ่งประเภทกล้ามเนื้อ ชาย หญิง อีกด้วย
5) Record หน้าที่ไว้ คอยดูว่าเราทำกิจกรรมอะไรไปแล้วบ้าง วิ่งระยะเท่าไหร่แล้วบ้าง รวมทั้งหมดวิ่งไปเท่า ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน จะมีให้เราดูได้ครบ
-Device หน้านี่จะเป็นหน้าที่จะเอาไว้ตั้งค่านาฬิกาของเราทั้งหมดเลยก็ว่าได้ หรือง่ายๆ คือ ถ้าใครขี้เกียจ ตั้งค่าในนาฬิกาตัวอักษรเล็ก มองยาก ให้มาตั้งค่าที่หน้า Device กัน ได้เลยไม่ว่าจะเป็น
-การเปลี่ยนหน้าจอ
-การปรับแต่งเมนูลัด
-การเปิด-ปิด การแจ้งเตือน
-เปลี่ยน Data Screen แถบโชว์ข้อมูลการวิ่ง
-ตารางการซ้อม
-การตั้งค่า GPS
-การอัพเดทเฟิร์มแวร์ของตัวนาฬิกา
-ตารางซ้อมที่ดาวน์โหลดมา
-เส้นทางที่เราดาวน์โหลดมา
และ ที่สำคัญหน้า Device นี่จะเป็นหน้าที่ไว้คอยจับคู่กับตัวนาฬิกาของเราด้วย
โหมด Hightlight ของ Coros Vertix ก็คือแบตเตอรี่สิ่งแรกที่อย่างจะบอกเลยกับเจ้า Coros Vertix คือ “สายชาจแบตอยู่ไหน?”
ซิ่งแอดจะบอกในทุกๆรุ่น แต่รุ่นนี้คือ ต้องทำคล้องคอไว้เลยนะ เพราะว่า Coros Vertix จะเป็นรุ่นที่ แบตเตอรี่ ที่อึดที่สุดในรุ่น ใหญ่ที่สุดในรุ่น!! เพราะ มำจะทำให้คุณสามารถวิ่งในโหมด Full Gps ได้ถึง 60 ชั่วโมง!!! อ่านไม่ผิดแน่นอนครับ จัดแบบ Full Gps ไปเต็มๆ Race เลยโดยไม่ต้องเปิดโหมดประหยัดแบต แต่ถ้ายังไม่สะใจ เปิดโหมด Ultra Max ไปเลยเพราะมันจะทำให้คุณเปิดนาฬิกาได้สูงสุดถึง 150 ชั่วโมง
( แอดหวังไว้ว่าคงไม่มีใครที่จะวิ่งต่อเนื่องถึง 150 ชั่วโมงนะ หรือว่ามี!!! )
และถ้าอยู่ในโหมด Smartwatch ก็จะสามารถอยู่ได้ถึง 45 วันเลยทีเดียว เชื่อแอดยังครับว่าต้องทำที่คล้องคอไว้สายชาจจะได้ไม่หาย
โหมดวัดความสูง ความชัน ความกดอากาศ และโหมดแผนที่
Coros Vertix อย่างที่กล่าวไว้ว่าทำมาเพื่อเอาใจสาย เทรล ในโหมดฟังก์ชั่นการวัด ความสูง ความชื้น ความกดอากาศ อุณหภูมิ ต่างๆสามารถเลือกดูได้ครบทุกฟังก์ชั่น และที่สำคัญ ฟังก์ชั่น การดูที่ระยะ ขึ้น-ลง สะสมของการขึ้นเขาลงเขา สามารถบอกได้อย่างแม่นยำเลยทีเดียวว่าในแต่ละสนาม เก็บความสูงไปได้เท่าไหร่แล้ว
Altitude Mode
โหมดสุดเจ๋งใน Coros Vertix ที่สามารถ บอกระดับค่า ออกซิเจนในเลือด และความกดอากาศได้ เพราะการที่ยิ่งขึ้นสูง อากาศยิ่งน้อย การกายใจลำบาก โหมดนี้จะคอยบอกทั้งความสูงที่ขึ้นไป และ ออกซิเจนที่เข้ามาในร่างกายว่าเพียงพอต่อการ ที่จะไปถึงจุดยอดเขานั้นไหม
COROS Vertix สามารถวัดค่า SpO2 ผ่านเซนเซอร์ที่ชื่อ Oximeter ที่อยู่ข้างๆ HR sensor โดยใช้การสะท้อนของแสงอินฟาเรดจากผิวเพื่ออ่านค่านี้ ค่าออกซิเจนในกระแสเลือดสำหรับผู้ใหญ่ ที่จะทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติ อยู่ที่ประมาณ 95-99% ปกติแล้ว นาฬิกาจะวัดค่านี้ให้เราทุกๆ 1 ชม.อยู่ แต่เราสามารถอ่านค่านี้ได้แบบ Manual ด้วยการเข้า Setting > Oximter แล้วใส่ค้างไว้ 30 วิ. เพื่อให้นาฬิกาวัดค่านี้ได้ทันที
โหมดแผนที่ ก็สามารถดาวส์โหลด ไฟล์ GPX ของต่างละสนามมาลงที่นาฬิกาได้เลย จะช่วยให้คุณวิ่งในป่าได้อย่างปลอดภัยไม่หลุดเส้นทาง
เสริมด้วย ระบบ GPS ที่มีความโดดเด่นในการจับเส้นทาง ที่มีความแม่นยำสูงด้วยระบบอัฉริยะของ Coros ที่ใช้ดาวเทียมทั้ง ของ Glonass และ Beidou ในการจับระยะเส้นทาง การขึ้น-ลง เขาได้อย่างแม่นยำที่สุด (จะไม่ให้แม่นยำได้ยังไง Coros ลงทุนใช้ GPS สำหรับรถยนต์ ที่ถูกติดตั้งไว้ในรถยนต์ Volkswagen และรถยนต์ยี่ห้ออื่น ๆ อีกมากมาย) แม่นกว่านี้ก็เอาไม้บรรทัดวัดได้เลย
โหมด BeadCrumb Navigation จะเป็นการติดตามการนำทาง BeadCrumb ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามเส้นทาง GPX ที่โหลดไว้ล่วงหน้าบนนาฬิกา หรือง่ายๆขึ้นการวัดค่า ความสูง ความชันสะสม ในระยะ การขึ้นเขา ลงเขาของเรา
ความแตกต่างในรุ่น Coros vertix กับ Coros Apex Pro ต่างกันขนาดไหน ? ก่อนตัดสินใจซื้อ
1)รูปลักษณ์ดีไซน์ อันดับแรกเลย Coros vertix จะเป็นวัสดุ Grade 5 Titanium Alloy ครอบด้วย Titanium Alloy แต่ถ้าเป็น Apex Pro จะครอบด้านข้างด้วย Aluminum ทำให้ Vertix จะดูสวยและหรูหรา มากกว่าตัว Pro
2)ความแตกต่าง แบตเตอรี่ ทั้ง 2 รุ่น
Coros vertix
-Full GPS Mode 60 Hours
-UltraMax GPS Mode 150 Hours
-Stanby Mode 45 วัน
Coros Apex Pro
-Full Gps Mode 40 Hours
-UltraMax GPS Mode 100 Hours
-Stanby Mode 30 วัน
3)น้ำหนัก
-Coros Apex Pro 59g
-Coros vertix 76g
เอาจริงๆ ใครที่สาย ถึก อึด ทน แอดเชียร์ให้มาที่เจ้า Coros Vertix เลย แต่ถ้าใครไม่ชอบทรง เจ้ารถถังตัวนี้ ก็มาที่ Coros Apex Pro ได้เลย
แต่สิ่งที่ Coros Vertix ทำมาคือเอาใจพี่ๆสายเทรล หรือคนที่ชอบขึ้นเขา โดยเฉพาะเลย นะแอดจะบอกให้
สุดท้ายแทบจะไม่ต่างอะไรกับแบรนด์อื่นเลย ทั้งดาวเทียมของ Glonass หรือ Galileo Beidou จะ มีความแม่นยำที่ใกล้เคียงกันเว้นแต่ว่า ตอนวิ่ง บางที่ ที่ผ่านจุดอับ หรือโดนสัญญาณรบกวน ก็อาจจะห่างกันไม่เกิน 2-3 เมตรโดยประมาณ จากการที่ใส่วิ่งคู่กับแบรนด์อื่นๆ
ฟังก์ชั่นมีแถบจะมีครบทุกอย่างของการวิ่ง ไม่ว่าจะวิ่งเทรล ที่ต้องใช้ barometer ช่วยจับความชัน เปลี่ยนหน้าจอได้ มีเข็มทิศ โหลดแผนที่ได้ในรูดที่ไปแข่งขันเทรล วิ่งถนน ก็มีตัวเลือกให้ใช้ไม่ว่าจะ Interval ลงคอร์ด หรือวิ่งตามลู่ 400 เมตร เพื่อเพิ่มควาแม่นยำ การ เชื่อมต่อก็สามารถต่อไปยัง Strava, TrainingPeaks, Relive,Nike,Adidas Apple Health ได้ทั้งนั้น หรือต่อ Notification การแจ้งเตือนกับโทรศัพท์ได้ Line,Facebook ต่างๆก็สามารถแจ้งเตือนได้ หรือใครที่สายสุขภาพก็สามารถติดตาม เรื่องหัวใจ การนอน cadence VO2max lactate threshold เอาเป็นว่านักวิ่งต้องดูอะไร Coros Vertix จะมีทุกอย่างให้คุณได้รู้
สุดท้ายถ้าถามว่ารุ่นนี้เหมาะกับกีฬาประเภทไหนละก็ ถ้าให้แอดเชียร์ คงต้องไปทาง สาย Trail เพราะด้วยความ อึด ถึก ทน ของเจ้า Coros Vertix เนี่ยจะไม่ให้เชียร์ไปทาง Trail ก็คงเป็นไปได้ยาก ไหนจะเป็นแบตเตอรี่ ที่อึดจนคุณสามารถวิ่งจบ Ultra Trail ได้ 2 รอบเลยนะ
กระจกกันกระแทก ขอบวัสดุแบบ ไทเทเนี่ยมอีก ให้ตายเถอะ!!! แอดไม่รู้จะหาคำไหนมาชนให้เจ้านาฬิกาเรื่องนี้พังได้ลง
แต่กีฬาอื่นไม่ต้องน้อยใจไปเพราะ Coros Vertix มีให้คุณแถบจะครบทุกชนิดกีฬาเช่นกัน
เป็นนาฬิการุ่น พรีเมี่ยม ของแบรนด์ COROS ด้วยวัสดุ ดีไซน์ ที่ทั้งแข็งแรง และ หรูหรา ในราคาที่คุ้มค่า กับฟังก์ชั่น มัลติสปอร์ต ที่ครบทุกกีฬาจบในเครื่องเดียว น้ำหนักเบา ถึก อึด ทน ใส่ได้ทุกรูปแบบ
ปล. ในรุ่น Limited ตัวเรือนเป็นไทเทเนียมโปร่งแสง โดดเด่น พรีเมี่ยม สีสวยเป็นเอกษณ์ในความ Limited
ฟังก์ชั่นการติดตามสมรรถภาพร่างกาย :
-การวิเคราะห์การฝึกขั้นสูง (VO2max, Training Effect, Training Load, Threshold Pace ฯลฯ )
-จับอัตราการเต้นของหัวใจ แม้ขณะที่ว่ายน้ำ/แคลอรี่/ก้าวเดิน/ค่าการนอนหลับ
ฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย
-COROS Trining : สามารถดาวน์โหลดการออกกำลังกายจากโค้ชมืออาชีพ สร้างการออกกำลังกายของคุณในแอพพลิเคชั่น ล่วงหน้าได้ถึง 200 รายการ
-ในโหมด “Track Run” สร้างความแม่นยำด้วยอัลกอริธึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ COROS แม้คุณวิ่งในTrack ก็มีความแม่นยำมากขึ้น
-มีฟังก์ชั่นรองรับวิ่ง, วิ่งในร่ม, วิ่งเทรล, ลู่วิ่ง, ไต่เขา, จักรยาน, จักรยานในร่ม, ว่ายน้ำในสระ, น้ำเปิด, ไตรกีฬา, ยิมคาร์ดิโอ, คาร์ดิโอ GPS, สกี, สโนว์บอร์ด, สกี XC, ทัวร์สกี, กีฬาหลายประเภท, ความแข็งแรง, Training
-มีฟังก์ชั่น Oximeter ดูค่าออกซินเจนในเลือดระหว่างการขึ้นทางชัน พร้อมโหมดการนำทาง breadcrumb เพื่อคำนวนระยะ ความชันล่วงหน้า และบันทึกความชันย้อนหลัง
น้ำหนักตัวเรือน: 76 g
แบตเตอรี่
Smartwatch: 45 วัน
GPS Mode: 60 ชั่วโมง
Ultra Max: 150 ชั่วโมง
กระจก: Diamond-like Coating Sapphire Glass
ขนาดหน้าปัด: 47 mm
ราคา 19,990 บาท และ 23,990 บาท ในรุ่น Limited (สี Ice Breaker)
ความคุ้มค่า 4.9/5
ฟังชั่นการฝึกซ้อม 4.7/5
ความสวยงาม หรูหรา 5/5