วิ่งมาถูกทางแล้วใช่ไหม?
มาทำความรู้จักกับฟังก์ชั่น “Training Status” ที่จะทำให้คุณออกกำลังกายได้ถูกต้อง ตรงจุด
สวัสดีครับ มาพบกับอีกแล้วนะครับ ช่วงนี้งานวิ่งเยอะ แต่ผมดันมีปัญหาสุขภาพเขามาเล่นงาน ทำให้เป็นหวัดไม่ได้ซ้อมมาพักใหญ่ๆเลย ไหนจะฝุ่น PM2.5 อีก ทำให้การวิ่งมีอุปสรรคในการวิ่งมากมาย เอ๊ะ! สังเกตหน้าปัดฟังก์ชั่น “Training Status” มันขึ้นว่า “รักษา”
มันคืออิหยังหว่า? ผมต้องรักษาอะไร รักษาโรคหรอ ? งั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักฟังก์ชั่นนี้กันดีกว่า
ฟังก์ชั่น “Training Status” เป็นฟังก์ชั่นในนาฬิกา Garmin ที่จะประเมินความหนักของการฝึกซ้อม(Load) นำมาเปรียบเทียบกับความฟิตของร่างกาย(Fitness) ของคุณ เช่น การแปรผันของสมรรถภาพ Vo2max เป็นต้น ส่วนลูกศรที่อยู่ข้างล่างก็เป็นสัญลักษณ์ทำให้เราดูความสัมพันธ์ของทั้ง2ค่าได้ง่ายขึ้น โดยความหนักของการฝึกซ้อม(Load) จะรวบรวมข้อมูลปริมาณความหนักการฝึกซ้อมใน 7 วัน ถ้าเราเอาเข้าใจง่ายๆก็เหมือนเอา Training Load มาคำนวนรวมกับ ค่า Performance Vo2max และประเมินผลออกมาให้เราเข้าใจง่ายๆ 7 สถานะ ดังที่จะมาบอกกันต่อจากนี้
1.Peak (ช่วงพีค) : เป็นจุดพีคที่สภาพร่างกายพร้อมต่อการแข่งขันสุดๆ แม้ว่าระดับการฝึกซ้อมเบาลง แต่ระดับความฟิตยังคงเพิ่มขึ้น คุณจงใช้ช่วงเวลา Peaking ให้มีประสิทธิภาพให้มากที่สุด เพราะความหอมหวาน อาจจะอยู่กับคุณไม่นานเท่าไร
2.Productive (มีประสิทธิภาพ) : คุณกำลังมาถูกทางแล้ว!เราดีใจด้วย คุณซ้อมได้พอดี และร่างกายของคุณ ก็พัฒนาได้ดี ความหนักในการซ้อมและประสิทธิภาพ สัมพันธ์กัน จำความหนักในการซ้อมและประสิทธิภาพในจุดนี้ไว้ให้ดีล่ะ
3.Maintaining (รักษา) : ไม่ได้หมายถึงให้คุณไปรักษาอะไร แต่หมายถึง การซ้อมของคุณอยู่ในช่วงรักษาระดับ กลางๆ ไม่เบาไป ไม่หนักเกิน กำลังดี การซ้อมแบบนี้จะทำให้ความฟิตของคุณไม่ตกลงไปมาก
4.Recovery (พักฟื้น) : ส่วนใหญ่ช่วงนี้จะเกิดขึ้นในกรณีหลังการแข่งขัน หรือ หลังการพักฟื้นจากการซ้อมหนัก ระดับการฝึกเบาลง แต่ ความฟิตยังคงอยู่เหมือนเดิม
5.Unproductive (ไม่มีประสิทธิภาพ) : ความหนักในการซ้อมกับความฟิตของร่างกาย สวนทางกัน ซ้อมหนัก แต่ ระดับความฟิตตกลง อาจะเกิดได้จากหลายปัจจัย ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือ โภชนาการ เพราะฉะนั้นการซ้อมควรเตรียมร่างกายให้พร้อมนะครับ
6.Detraining (น้อยเกินไป) : ฮั่นแน่! ถ้าหน้าปัด training Status ขึ้นแบบนี้คุณความจะต้องเริ่มซ้อมมากขึ้น หรือ หนักขึ้นอีกเพราะทั้งความฟิตและความหนักในการสิ่งคุณกำลังลดลง ใส่รองเท้าแล้วเริ่มออกวิ่งกัน
7.Overreaching (หนักเกินไป) : การซ้อมของคุณหนักเกินไป แถมความฟิตของคุณก็ลดลงด้วย อาจจะเกิดผลเสียต่อร่างกายได้เลย เพราะฉนั้นคุณควรพักผ่อนและออกกกำลังกายให้เบาลงเพื่อวิ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง
เป็นยังไงกันบ้างล่ะครับกับ ฟังก์ชั่น “Training Status” ของ Garmin เป็นฟังก์ชั่นจำเป็น
สำหรับ นาฬิกาสำหรับวิ่งจริงๆ แล้วตอนนี้ “Training Status” ของคุณเป็นอย่างไรบอกให้เรารู้ในช่องคอมเม้นหน่อยซิ วิ่งให้ถูกทางไปกับ ฟังก์ชั่น “Training Status” นะครับ